ปัญจวัคคีย์ ก็คือ กลุ่มนักบวช
มีโกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัชสชิ
แต่เดิมปัญจวัคคีย์เป็นนักบวชที่ออกบวชติดตามปรนนิบัติพระพุทธเจ้าตั้งแต่เสด็จออกผนวชใหม่ ๆ ทั้งหมดเป็นชาวกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นกลุ่มบุคคลที่ได้ฟังปฐมเทศนาเป็นรุ่นแรก ได้เป็นภิกษุรุ่นแรกและได้เป็นพระอรหันต์รุ่นแรกในพระพุทธศาสนา
โกณฑัญญะนั้นเชื่อมั่นในพระพุทธองค์ว่าจะได้ตรัสรู้เพราะท่านได้รับเชิญเข้าวัง เพื่อทำนายลักษณะของเจ้าชายสิทธัตถะ(ก็คือพระพุทธเจ้า) พรามณ์ทั้ง ๗ ก็ทายเป็นสองนัย ๆ แรกคือ ถ้าอยู่ครองฆราวาสวิสัยก็จักได้เป็นราชาที่ยิ่งใหญ่ นัยที่สอง ก็คือ หากออกบวชจักได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
มีท่านโกณฑัญญะผู้เดียวที่ทายนัยที่สองอย่างเดียว ตั้งแต่นั้นมาก็รอคอยถึง 30 กว่าปี ซึ่งตอนนี้ท่านโกณฑัญญะก็ชรามากแล้ว เมื่อพระพุทธองค์บำเพ็ญทุกขกิริยา(ทรมาณตนตามแบบนักบวชในสมัยนั้น) ก็มาคอยปรนนิบัติอุปัฏฐากพระองค์จน เมื่อพระองค์แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้ไม่เป็นการบรรลุธรรมแน่นอนเลยเลิกทรมาณตนหันมาฉันอาหาร เพื่อให้ร่างกายมีกำลัง ฝ่ายปัญจวัคคีย์เมื่อเห็นพระองค์กลับมาฉันอาหารก็คิดว่าพระองค์ทรงล้มเลิกแล้วก็เลยหมดศรัทธาพากันหนีไปอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ฝ่ายพระพุทธองค์ก็เร่งทำความเพียรแบบใหม่คือ การพิจารณาลมหายใจคืออาณาปานสติ ในคืนวันเพ็ญเดือน ๖ มาฆะปุณณมี พระองค์ก็ได้ตรัสรู้คือ อริสัจ๔คือ ความจริงอันประเสริฐ เมื่อตรัสรู้แล้วก็พิจารณาธรรมที่พระองค์รู้ว่าเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งมากยากที่คนจะเข้าใจได้ง่ายๆ ทรงคิดถึงอาจารย์คนแรกแต่ก็ตายแล้วก็เลยนึกถึงกลุ่มปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ เพราะเคยได้รับใช้พระองค์
ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 พระพุทธองค์ได้แสดงปฐมเทศนาคือธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โกณฑัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาบัน พระพุทธองค์ทรงรู้ถึงวาระจิตของโกณฑัญญะว่าได้เข้าใจธรรมแล้วก็ดีใจเปล่งอุทานเบา ๆ ว่า"อัญญาสิ วตโภโกณฑัญโญ แปลว่าโกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ ๆ นับแต่นั้นมาชื่อของท่านก็มีคำนำหน้าคือ อัญญาโกณฑัญญะ
โกณฑัญญะได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะในด้านรัตตัญญู เรียกว่า มีราตรีนาน คือเป็นผู้รู้ธรรมก่อนใคร และได้บวชก่อนผู้อื่นในพระพุทธศานา จากนั้นพระพุทธองค์ทรงประทาน ปกิณณกเทศนา สั่งสอนที่เหลืออีก 4 ท่าน ให้บรรลุโสดาบันแล้วประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้
ในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 8 พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาอนัตตลักขณสูตร ซึ่งมีใจความดังนี้
ขณะสดับพระธรรมเทศนา พระภิกษุปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ส่งจิตไปตามกระแสพระธรรมเทศนา จิตก็หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง ไม่ยึดมั่น ถือมั่นด้วยอุปาทาน สามารถละสังโยชน์ครบ 10 ประการ ได้บรรลุพระนิพพานเป็นพระอรหันต์พร้อมกันทั้ง 5 รูป
มีโกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัชสชิ
แต่เดิมปัญจวัคคีย์เป็นนักบวชที่ออกบวชติดตามปรนนิบัติพระพุทธเจ้าตั้งแต่เสด็จออกผนวชใหม่ ๆ ทั้งหมดเป็นชาวกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นกลุ่มบุคคลที่ได้ฟังปฐมเทศนาเป็นรุ่นแรก ได้เป็นภิกษุรุ่นแรกและได้เป็นพระอรหันต์รุ่นแรกในพระพุทธศาสนา
โกณฑัญญะนั้นเชื่อมั่นในพระพุทธองค์ว่าจะได้ตรัสรู้เพราะท่านได้รับเชิญเข้าวัง เพื่อทำนายลักษณะของเจ้าชายสิทธัตถะ(ก็คือพระพุทธเจ้า) พรามณ์ทั้ง ๗ ก็ทายเป็นสองนัย ๆ แรกคือ ถ้าอยู่ครองฆราวาสวิสัยก็จักได้เป็นราชาที่ยิ่งใหญ่ นัยที่สอง ก็คือ หากออกบวชจักได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
มีท่านโกณฑัญญะผู้เดียวที่ทายนัยที่สองอย่างเดียว ตั้งแต่นั้นมาก็รอคอยถึง 30 กว่าปี ซึ่งตอนนี้ท่านโกณฑัญญะก็ชรามากแล้ว เมื่อพระพุทธองค์บำเพ็ญทุกขกิริยา(ทรมาณตนตามแบบนักบวชในสมัยนั้น) ก็มาคอยปรนนิบัติอุปัฏฐากพระองค์จน เมื่อพระองค์แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้ไม่เป็นการบรรลุธรรมแน่นอนเลยเลิกทรมาณตนหันมาฉันอาหาร เพื่อให้ร่างกายมีกำลัง ฝ่ายปัญจวัคคีย์เมื่อเห็นพระองค์กลับมาฉันอาหารก็คิดว่าพระองค์ทรงล้มเลิกแล้วก็เลยหมดศรัทธาพากันหนีไปอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ฝ่ายพระพุทธองค์ก็เร่งทำความเพียรแบบใหม่คือ การพิจารณาลมหายใจคืออาณาปานสติ ในคืนวันเพ็ญเดือน ๖ มาฆะปุณณมี พระองค์ก็ได้ตรัสรู้คือ อริสัจ๔คือ ความจริงอันประเสริฐ เมื่อตรัสรู้แล้วก็พิจารณาธรรมที่พระองค์รู้ว่าเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งมากยากที่คนจะเข้าใจได้ง่ายๆ ทรงคิดถึงอาจารย์คนแรกแต่ก็ตายแล้วก็เลยนึกถึงกลุ่มปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ เพราะเคยได้รับใช้พระองค์
ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 พระพุทธองค์ได้แสดงปฐมเทศนาคือธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โกณฑัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาบัน พระพุทธองค์ทรงรู้ถึงวาระจิตของโกณฑัญญะว่าได้เข้าใจธรรมแล้วก็ดีใจเปล่งอุทานเบา ๆ ว่า"อัญญาสิ วตโภโกณฑัญโญ แปลว่าโกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ ๆ นับแต่นั้นมาชื่อของท่านก็มีคำนำหน้าคือ อัญญาโกณฑัญญะ
โกณฑัญญะได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะในด้านรัตตัญญู เรียกว่า มีราตรีนาน คือเป็นผู้รู้ธรรมก่อนใคร และได้บวชก่อนผู้อื่นในพระพุทธศานา จากนั้นพระพุทธองค์ทรงประทาน ปกิณณกเทศนา สั่งสอนที่เหลืออีก 4 ท่าน ให้บรรลุโสดาบันแล้วประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้
ชื่อ | วันที่ได้ธรรมจักษุ |
---|---|
วัปปะ | วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 |
ภัททิยะ | วันแรม 2 ค่ำ เดือน 8 |
มหานามะ | วันแรม 3 ค่ำ เดือน 8 |
อัสสชิ | วันแรม 4 ค่ำ เดือน 8 |
ภิกษุทั้งหลาย ขันธ์ 5 มีดังนี้ | ||
— พระพุทธเจ้า |
No comments:
Post a Comment